Home ข่าวสมุนไพร ยาไทยฟ้าทะลายโจร ภูมิปัญญา..สู้ยานอก

ยาไทยฟ้าทะลายโจร ภูมิปัญญา..สู้ยานอก

0
0

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอดื้อ” ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความรู้เกี่ยวกับสมองสะท้อนพฤติกรรม และขอหยิบยกต่อเนื่องไปถึงกรณี “ฟ้าทะลายโจร ยาประจำบ้าน” ที่ถูกถอดออกจากการรักษาโควิดในคู่มือเวชปฏิบัติ เมื่อเดือนมิถุนายน 2567

และ…ใส่ “ยาฟาวิพิราเวียร์” ซึ่งไวรัสดื้อจนหมดสิ้นแล้ว และไม่อยู่ในตำรับการใช้ก่อนหน้ามานานแล้ว และทำให้ขณะนี้สถานพยาบาลใช้ฟาวิพิราเวียร์แทนจ่ายให้ผู้ป่วย

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้…มีการยื่นบันทึกร้องถามเหตุผลและข้อมูลของกรรมการโควิด กรมการแพทย์ และ อย. ต่อรัฐมนตรีสาธารณสุข มีความประสงค์ที่จะให้ถอดเทปคำตอบคำ ใคร…?เป็นผู้เสนอข้อมูลให้ถอด หลักฐาน ข้อมูลคืออะไร และการตัดสินของคณะกรรมการขึ้นอยู่กับอะไร

และ…ทำไมฟาวิพิราเวียร์ถึงปรากฏตัวอยู่ในเวชปฏิบัติฉบับล่าสุดนี้

“ฟ้าทะลายโจร” ราคาถูกปลูกได้ในประเทศไทย…“ฟาวิพิราเวียร์” ต้องสั่งวัตถุดิบจากต่างประเทศและให้องค์การเภสัชทำเม็ด เราต้องการความโปร่งใส

“ฟ้าทะลายโจรใช้ได้ในอาการไข้หวัดไม่ว่าจะเล็ก กลาง ใหญ่ ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นมีอาการ ใช้สองวันหายก็เลิกกิน…ถ้าดีขึ้นแต่ไม่หายสนิทก็กินต่อให้ครบห้าวัน ตับอักเสบไม่เกิด ยกเว้นมีโรคตับอยู่แล้วเลยไปโทษยา หรือกินยาพาราเยอะเลยตับอักเสบ หรือการติดเชื้อไวรัสนั้นทำให้เกิดตับอักเสบ”

“ฟ้าทะลายโจร” ถูกด้อยค่า ออกจากแนวเวชปฏิบัติรักษาโควิด แต่บรรจุให้ใช้ “ฟาวิพิราเวียร์” แทน ทั้งที่เลิกไปแล้วเพราะไวรัสดื้อต่อฟาวิฯ ตั้งแต่หลังจากที่มีการโหมให้คนติดเชื้อทุกคนมีหรือไม่มีอาการก็ตาม กินตอนปี 2564 ตอกย้ำการรายงานโดยศาสตราจารย์แพทย์ พญ.สยมพร ศิรินาวิน และคณะ ในคนที่ติดเชื้อโควิด

ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีวัคซีน ในช่วงปลายปี 2563 ถึงมีนาคม 2564 พบว่าไม่มีปอดบวมในคนที่ได้รับฟ้าทะลายโจร และปอดบวม 10.7% ในคนที่ไม่ได้ยา และไม่พบการอักเสบจากการดูระดับ CRP ในคนที่ได้รับยา (0% ต่อ 17.9%) ถึงแม้จะมีคนติดเชื้อในการศึกษาไม่มาก แต่เป็นการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด

ถัดมา…เป็นการศึกษาโดยคณะเดียวกันใน 7 โรงพยาบาล ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นพบปอดบวมในหนึ่งรายจากทั้งหมด 243 ราย ในกลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจร และ 69 รายจากทั้งหมด 285 ราย ในกลุ่มที่ไม่ได้รับ…ไวรัสยังคงเป็น “อู่ฮั่น”ในระลอกสองซึ่งมีการยกตัวระบาดรุนแรง

ในระยะต่อมาเมื่อเริ่มมีการระบาด “สายพันธุ์อัลฟ่า”จากโรงพยาบาลอุดรฯ 344 ราย (เม.ย.-ส.ค.64) หลังผู้ป่วยได้รับยาสารสกัดหยาบฟ้าทะลายโจร มีความรุนแรงของโรคในเรื่องการไอ เจ็บคอ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ถ่ายเหลว หายใจเหนื่อยลดลง การรับรสและการได้กลิ่นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

หมายเหตุ…การดูปริมาณไวรัสจากการแยงจมูกไม่สามารถบ่งบอกความรุนแรงของโรคได้ และการที่ไวรัสหายไปเร็วจากจมูกนั้นไม่ได้บอกว่ายานั้นดีกว่าหรือไม่ดีกว่า

“เราต้องไม่ลืมว่าแม้แต่ยาปัจจุบันราคาแพง…โมลนูพิราเวียร์ ไวรัสหายไประยะแรกแล้วก็กลับโผล่ขึ้นมาใหม่ได้ 10–20% จากการแยงจมูก ปาก สำคัญที่ตัวคนป่วย…การดูที่อาการไม่ว่าจะเป็นอาการในปอดหรืออาการในระบบร่างกายว่าดีขึ้นเร็วหรือไม่ต่างหาก”

ถึงตรงนี้คำถามสำคัญจึงมีว่า…รัฐมนตรีสาธารณสุขถอดฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดและใส่ฟาวิพิราเวียร์ที่ไวรัสดื้อไปหมดจดแล้วทำไม?

ที่มา : thairath.co.th

NO COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here